เนื้องอกมดลูกเนื้องอกมดลูกคืออะไรเนื้องอกมดลูก เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูก ผิดปกติไป โดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน มีการสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือ ฮอร์โมนเพศหญิงเป็นตัวกระตุ้นให้เนื้องอกโตขึ้น เนื่องจากพบว่า เนื้องอกมดลูกจะเล็กลงหลัง วัยหมดประจำเดือนเป็นส่วนใหญ่มีโอกาสเป็นเนื้องอกมดลูกไหม ?พบประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ช่วงอายุ 30-50ปี เป็นเนื้องอกมดลูก และ มักจะไม่รู้ตัวเนื่องจาก ไม่มีอาการผิดปกติ เนื้องอกมดลูกเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงและไม่ใช่มะเร็ง และ อัตราการกลายเป็นมะเร็งน้อยมากๆจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นเนื้องอกมดลูกแล้วผู้ที่เป็นเนื้องอกมดลูก แต่ไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆ ถ้าอยากทราบแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่เริ่มเป็นไม่มาก อาศัยการตรวจจากแพทย์ โดยการตรวจภายใน หรือ ตรวจด้วยวิธีอัลตราซาวด์เนื้องอกพบส่วนไหนของมดลูกบ้าง ?สามารถพบได้ในทุกๆตำแหน่งของมดลูก ได้แก่1) ผนังด้านนอกของมดลูก 2) เกิดในตัวกล้ามเนื้อมดลูก 3) เนื้องอกที่เบียด เข้าไปในโพรงมดลูก มีอาการอย่างไรเมื่อเป็นเนื้องอกมดลูก ?50 เปอร์เซ็นต์ ของคนที่เป็นเนื้องอกมดลูกจะไม่รู้ตัวเนื่องจากไม่มีอาการผิดปกติให้เห็น แต่จะสามารถรู้ได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยการตรวจภายในหรือ อัลตราซาวด์ อาการผิดปกติที่พบ มีดังนี้
แพทย์จะตรวจวินิจฉัยได้อย่างไรนอกจากการซักประวัติ ตรวจร่างกายแล้วปัจจุบันนี้ ยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ ช่วยให้การตรวจ แม่นยำมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องอัลตราซาวด์ โดยผ่านทางหน้าท้อง หรือ ผ่านทางช่องคลอด เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป บางรายอาจจะจำเป็นต้อง ตรวจโดยการส่องกล้องในช่องท้อง หรือในโพรงมดลูกขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์รักษาอย่างไรเมื่อเป็นเนื้องอกมดลูกแนวทางการรักษาของแพทย์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆไป ปัยจัยที่ประกอบ การพิจารณาได้แก่ ขนาดของเนื้องอก อายุ มีบุตรหรือยัง เป็นต้นแนวทางการรักษามีดังต่อไปนี้
ข้อดีของการผ่าตัดโดยส่องกล้อง 1.แผลผ่าตัดเล็ก 2.เจ็บแผลเล็กน้อย เสียเลือดน้อย 3.ใช้เวลาพักที่ โรงพยาบาลน้อยลง 4.การฟื้นตัวและ ทำกิจวัตรประจำวันได้เร็ว การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
การดูแลตนเองหลังผ่าตัด เมื่อกลับบ้าน1.ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้เปียกน้ำ หลีกเลี่ยงการแช่ตัวในสระหรืออ่างน้ำ2.ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ ภายนอกทุกครั้งหลังถ่ายอุจจาระและปัสสาวะห้ามสวนล้างช่องคลอด 3.รับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำวันละอย่างน้อย 8 แก้ว รับประทานผักผลไม้ เพื่อลดปัญหาท้องผูก จะได้ไม่ต้องออกแรงเบ่งมาก 4.ออกกำลังกายเบาๆ ห้ามหักโหม เช่นเดินรอบบ้าน 5.ควรนอนหลับวันละ 8-10 ชั่วโมง 6.หลังผ่าตัด2 สัปดาห์ ทำงานเบาๆ เช่นกวาดบ้าน ทำอาหาร หลังผ่าตัด6 สัปดาห์ เริ่มทำงานปกติได้ หลังผ่าตัด 4-6 เดือน ไม่ควรยกของหนัก เช่น อุ้มเด็ก 7.งดเพศสัมพันธ์ 6 สัปดาห์หลังผ่าตัด หรือตามคำแนะนำของแพทย์ 8.รับประทานยาให้ตรงเวลาและครบจำนวนตามคำสั่งแพทย์ 9.ไปพบแพทย์ตามนัด หมายเหตุ การกำหนดระยะเวลาการทำกิจกรรมแต่ละอย่างนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์เป็นหลัก อาการแทรกซ้อนที่ควรรีบพบแพทย์
พญ.เนตร บุญคุ้ม
สูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหญิง ศูนย์สุขภาพหญิง โรงพยาบาลพญาไท 3
เข้ารับคำปรึกษาได้ที่ : ศูนย์สุขภาพหญิง โรงพยาบาลพญาไท 3
วันและเวลาทำการ : 07.30 – 22.00 น. (ทุกวัน) Call Center 1772 |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น