ท่านทราบหรือไม่ว่า การใช้ชีวิตอย่างไม่ถูกสุขลักษณะ ตั้งแต่การับประทานอาหารที่ผิดสัดส่วน มีแต่เนื้อสัตว์สีแดง ไม่มีผักและผลไม้ ดื่มน้ำน้อย ขาดการออกกำลังกาย ปล่อยให้เกิดภาวะท้องผูก ดื่มเหล้า และสูบบุหรี่จัด อาจนำท่านไปสู่โรคร้ายที่น่ากลัวได้ ในประเทศไทยนั้น มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 3 ในเพศชายรองจากมะเร็งตับและมะเร็งปอด และพบเป็นอันดับ 5 ในเพศหญิง เป็นโชคดีที่ปัจจุบันนี้ พบว่าโรคมะเร็งสำไส้ใหญ่สามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้
จากความรู้เรื่องกลไกการเกิดโรคมะเร็งสำไส้ใหญ่และทวารหนักเป็นโรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์เยื่อบุลำไส้ใหญ่ จากเนื้อเยื่อบุลำไส้ปกติไปเป็นติ่งเนื้อและพัฒนาไปเป็นมะเร็งในที่สุด ดังนั้น หากเราสามารถตรวจพบการผิดปกติดังกล่าวได้ตั้งแต่ในขั้นแรกๆหรือตั้งแต่การเป็นติ่งเนื้อและสามารถตัดออกไปได้ ก็จะเป็นการทำลายโอกาสที่จะเกิดมะเร็ง ซึ่งจากข้อมูลทางทฤษฎี พบว่าติ่งเนื้อขนาด 1 ซม.จะให้เวลานานถึง 10 ปีที่จะกลายเป็นมะเร็ง
ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่ง คือ ผู้ป่วยที่มีติ่งเนื้อ หรือ ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะแรกจะไม่มีอาการใดๆ และมักจะมีอาการเมื่อมะเร็งลุกลามไปมากแล้ว ดังนั้น เราจึงควรตรวจค้นหามะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักในระยะเริ่มแรก อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งการตรวจหาติ่งเนื้อระยะก่อนเป็นมะเร็ง หรือมะเร็งระยะเริ่มแรก สามารถทำได้โดย การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) เป็นการส่องกล้องเข้าไปตรวจลำไส้ใหญ่ตลอดความยาวโดยตรง ที่ปลายท่อจะมีกล้องวิดีโออยู่ เพื่อให้เห็นภาพภายในลำไส้ใหญ่และทวารหนักทั้งหมด วิธีนี้สามารถตัดติ่งเนื้อที่อนาคตจะกลายเป็นมะเร็งออกไปได้ เป็นวิธีการตรวจที่แม่นยำที่สุด
อาการส่วนใหญ่ของผู้ที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มักเป็นดังนี้
1.ไม่มีอาการ
2.มีอาการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่าย ท้องเสียสลับท้องผูก อุจจาระลำเล็กลง
3.เลือดหรือมูกออกทางทวารหนักหรือปนมากับอุจจาระ
4.อึดอัดแน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืด มีอาการเกร็ง คล้ายเป็นตะคริวในท้อง
5.มีอาการเกิดจากลำไส้อุดตัน เช่น มีไข้ ไม่ถ่าย ไม่ผายลม ท้องอืด
6.ซีด โลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ
7.เบื่ออาหาร อ่อนเพลียอย่างผิดปกติ
8.น้ำหนักลดโดยไม่ได้จำกัดอาหาร
9.คลำพบก้อนบริเวณท้อง
2.มีอาการเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่าย ท้องเสียสลับท้องผูก อุจจาระลำเล็กลง
3.เลือดหรือมูกออกทางทวารหนักหรือปนมากับอุจจาระ
4.อึดอัดแน่นท้อง ปวดท้อง ท้องอืด มีอาการเกร็ง คล้ายเป็นตะคริวในท้อง
5.มีอาการเกิดจากลำไส้อุดตัน เช่น มีไข้ ไม่ถ่าย ไม่ผายลม ท้องอืด
6.ซีด โลหิตจางโดยไม่ทราบสาเหตุ
7.เบื่ออาหาร อ่อนเพลียอย่างผิดปกติ
8.น้ำหนักลดโดยไม่ได้จำกัดอาหาร
9.คลำพบก้อนบริเวณท้อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น