โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ภัยร้ายของคนอายุ 50 ปีขึ้นไป
ในปัจจุบันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 4 ของโลก เป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับ 2
ของประชากรในประเทศสหรัฐอเมริกา ในส่วนของประเทศไทยเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของในเพศชาย และ อันดับ 5 ในเพศหญิง
สาเหตุของโรคมะเร็ง แบ่งออกเป็น
ปัจจัยทั่วไป
1. เกิดจากกรรมพันธุ์หรือ
พันธุกรรม (คนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่)
2. อาหาร
อาหารที่มีไขมันสูง , แคลอรี่สูง , การสูบบุหรี่
,ดื่มแอลกอฮอล์, การรับประทานอาหารที่มีใยอาหารต่ำ
เพิ่มโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
3. ความเครียด
4. เพศ : เพศชายมีความเสี่ยงมากกว่า เพศหญิง
อาการของมะเร็งลำไส้ใหญ่
- ท้องเสีย
ท้องผูกหรือรู้สึกท้องอืด
- อุจจาระปนเลือดสดๆ
หรือเลือดสีคล้ำมาก
- ลักษณะอุจจาระเรียวยาวกว่าปกติ
- ไม่สบายท้อง ปวดแสบร้อนท้อง
อาหารไม่ย่อยและปวดเกร็ง
- น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลียหรืออ่อนแรง
- ซีด โลหิตจาง
แนวทางในการลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
ได้แก่
1. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
2. การบริโภคอาหารที่มีกากใยสูง
3. การควบคุมน้ำหนัก
4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่
5. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
การตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
โดยทั่วไปมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะแรกมักไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
สามารถตรวจเนื้องอกที่กำลังจะกลายเป็นมะเร็งและให้การรักษาได้
การตรวจขึ้นอยู่กับอายุและประวัติทางครอบครัว
รวมถึงความเสี่ยงต่างๆข้างต้นที่กล่าวมาแล้ว
ผู้ที่ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่
- ผู้ที่มีประวัติเคยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่หรือเคยมี
- เคยเป็นเนื้องอกชนิด
adenoma
- ประวัติคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ก่อนอายุ
60 ปี
- มีประวัติป่วยเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง
- มีโรคพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งลำไส้ใหญ่
(สำหรับการตรวจด้วยเครื่อง PET-CT ในคนทั่วไปยังอยู่ระหว่างการวิจัยถึงข้อดีและข้อเสีย
รวมถึงความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากการตรวจนี้ )
กลุ่มที่มีความเสี่ยง ได้แก่
- ชาย หรือ หญิง ที่มีอายุตั้งแต่ 50
ปีขึ้นไป
วิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
มีหลายวิธีดังนี้
- การตรวจหาเลือดในอุจจาระปีละ 1 ครั้ง
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลายทุกๆ 5 ปี
- การตรวจหาเลือดในอุจจาระปีละ 1 ครั้ง
และการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ส่วนปลายทุกๆ 5 ปี
- การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ทั้งหมดทุกๆ 10 ปี
- สวนแป้งทุกๆ 5 ปี.
(ไม่แนะนำตรวจเลือดเพื่อวัดระดับ CEA
ในคนทั่วไปที่ยังไม่มีอาการผิดปกติ)
การรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
จุดประสงค์ของการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้นมี 2 ลักษณะ ได้แก่
1. รักษาให้หายขาด (
Cure)
2. รักษาเพื่อประคับประคอง
(Palliative)
ในการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
จะประกอบด้วยทีมแพทย์สหสาขา ได้แก่ ศัลยแพทย์ รังสีแพทย์ อายุรแพทย์ มะเร็งวิทยา
โดยมีวิธีการรักษา ดังนี้
• การผ่าตัด
• ฉายแสงรังสีรักษา
• การให้ยาเคมีบำบัด
หัวใจสำคัญของการรักษาโรคมะเร็งที่ควรทราบก็คือ
โรคมะเร็งแต่ละชนิด มีการดำเนินของโรค
และความร้ายแรงแตกต่างกัน โอกาสดีที่สุดที่จะจัดการ กับโรคมะเร็ง คือ
ต้องรู้ให้เร็วที่สุด หรือ ตรวจคัดกรองก่อนที่จะเป็นการรักษาครั้งแรกมีความสำคัญ
มากที่สุด ความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ และความร่วมมือของผู้ป่วย
มีผลต่อการรักษามา
เมื่อพูดถึงโรคมะเร็งนั้น มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่ป้องกันได้หรือรู้ได้ในระยะเริ่มต้นได้แก่มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปากมดลูกป้องกันโดยตรวจภายใน ทำPap
Smear ปีละ 1 ครั้ง
ส่วนมะเร็งลำไส้ใหญ่ป้องกันได้โดยมาส่องกล้องลำไส้ใหญ่(Colonoscopy)หรือ CT colonography ทุกๆ10
ปี แต่อย่างไรก็ตามถ้ารู้ว่าเราเป็นแล้วก็ต้องรีบรักษากับแพทย์เฉพาะทางด้านลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
เพื่อจะได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดครับ
นพ. ธีรสันติ์ ตันติเตมิท
ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
โรงพยาบาลพญาไท 2
โทร 02-617-2444
ต่อ 7401 , 7406
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น