วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

การทดสอบภูมิแพ้นั้นทำได้อย่างไร ?

ทดสอบภูมิแพ้

ทดสอบภูมิแพ้

การทดสอบภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกคน ทุกเพศ และทุกวัย แต่การรักษาโรคภูมิแพ้ที่สำคัญของโรคภูมิแพ้คือคุณต้องหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งต้องอาศัยการซักประวัติและตรวจร่างกายแล้ว ยังควรทำการทดสอบภูมิแพ้ เพื่อให้ทราบว่าผู้ป่วยแพ้สารชนิดใดด้วย ซึ่งอาจทำได้โดยการตรวจเลือด การทดสอบทางจมูก หรือการทดสอบทางผิวหนัง โดยทั่วไปแล้วนิยมวิธีการทดสอบทางผิวหนัง เพราะทำได้ง่ายรวดเร็ว ให้ผลทันทีและสิ้นเปลืองน้อยกว่า

ทำไมจึงต้องทดสอบภูมิแพ้ ?

คือการนำน้ำยาสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ในอากาศ เช่น ฝุ่นบ้าน ตัวไร ฝุ่นไรแมลงสาบ เกสรดอกไม้ ละอองพืช วัชพืช เชื้อรา สารก่อภูมิแพ้ที่คนไทยมีโอกาสเป็นได้บ่อยๆ    มาทำการทดสอบที่ผิวหนัง พอระบบภูมิต้านทานของคุณได้รับสารก่อภูมิแพ้ชนิดนั้นๆเข้าไป ก็จะแสดงอาการออกมาให้เห็นทันที วิธีนี้ช่วยในการวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ที่มีความไวและความจำเพาะสูงมาก ทำได้ง่ายและปัจจุบันราคาไม่แพง

การทดสอบภูมิแพ้นั้นทำได้อย่างไร ?

การทดสอบภูมิแพ้สามารถทำได้ 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้
  • วิธีสะกิด (Skin Prick Test) เป็นการทดสอบโดยหยดน้ำยาลงบนผิวหนังที่แขน และใช้เข็มสะกิดตรงกลางหยดน้ำยา ซึ่งทำง่าย เร็ว ไม่เจ็บและใช้อุปกรณ์น้อย เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ทั่วร่างกายน้อย
  • วิธีฉีดเข้าในผิวหนัง (Intradermal Test) เป็นการฉีดน้ำยาเข้าใต้ผิวหนังเป็นจุดเล็กๆ ซึ่งทำยากกว่า เสียเวลามากกว่า เจ็บกว่า และต้องใช้อุปกรณ์มากกว่า และเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ทั่วร่างกายได้มากกว่า
โดยทั่วไปการทดสอบจะใช้น้ำยาสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ประมาณ 10-20 ชนิด และจะอ่านผลการทดสอบภายใน 15-20 นาที ถ้าผู้ป่วยแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใด จะเกิดรอยนูนและมีผื่นแดงรอบๆ อาจรู้สึกคันเล็กน้อยตรงจุดนั้น เจ้าหน้าที่จะวัดขนาดของรอยนูน บันทึกไว้ และแพทย์จะอธิบายให้ทราบว่าผู้ป่วยแพ้อะไร หลังจากนั้น 24 ชั่วโมง ถ้ายังมีผื่นแดงบริเวณที่ทดสอบภูมิแพ้นั้น ผู้ป่วยจะต้องวัดขนาดของผื่นแดงและบันทึกไว้ เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบในวันที่นัดมาพบครั้งต่อไป ผื่นนั้นจะค่อยๆ หายไปเอง

การเตรียมตัวก่อนการทดสอบภูมิแพ้

  • งดยาแก้แพ้ก่อนมารับการทดสอบ 7 วัน
  • ยาบางชนิดอาจมีส่วนผสมของยาแก้แพ้ เช่น ยาแก้หวัด ยาลดน้ำมูก ยาแก้คัน ต้องงดก่อนมาทดสอบประมาณ 7 วัน
  • ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ต้องแจ้งชื่อยาที่รับประทานอยู่ให้แพทย์ที่จะทำการทดสอบทราบด้วย เพราะยาบางชนิดต้องงดก่อนทำการทดสอบ
  • ยาสเตียรอยด์ชนิดทาผิวหนัง ก็มีผลกดปฏิกิริยาการทดสอบ ควรงดก่อนเช่นกัน
  • ไม่ต้องงดน้ำงดอาหารก่อนมาทดสอบ

ประโยชน์ของการทดสอบภูมิแพ้

  • ทำให้ทราบว่าโรคที่ผู้ป่วยเป็น มีสาเหตุมาจากโรคภูมิแพ้
  • ทำให้ผู้ป่วยทราบว่าตนเองแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใด และมากน้อยเพียงใด
  • ผู้ป่วยสามารถกำจัด หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่ตนแพ้ ซึ่งจะทำให้เกิดอาการของโรคอื่นขึ้นได้
  • ถ้าจำเป็นต้องรักษาโดยการฉีดวัคซีน แพทย์จะใช้ผลการทดสอบภูมิแพ้นี้เป็นข้อมูลในการสั่งวัคซีนสำหรับฉีดให้ผู้ป่วย

ข้อควรระวังในการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง

สำหรับผู้ที่แพ้มาก อาจเกิดอาการแพ้ทั่วร่างกายได้เช่นเดียวกับการแพ้ยาฉีดชนิดอื่น ได้แก่ มีผื่นคัน ลมพิษทั้งตัว แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หอบหืด และความดันโลหิตต่ำมากได้ แต่อาการเหล่านี้พบได้น้อยมาก และจากหลังการทดสอบ คนไข้ควรนั่งพักรอดูอาการอย่างน้อย 30 นาที เพื่อป้องกันผลข้างเคียงต่างๆจึงจะกลับบ้านได้

 
คลินิกโรคผิวหนัง โรงพยาบาลพญาไท 2 อินเตอร์เนชันแนล
วันจันทร์ – อาทิตย์ 9.00 – 19.00 น.
Call Center 1772

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น