เนื้องอกในสมองคืออะไร อันตรายไหม?
เนื้องอกในสมอง เกิดจากการเจริญเติบโตของเซลล์สมองผิดปกติ มีทั้งแบบเนื้องอกธรรมดาและเป็นมะเร็ง ซึ่งทั้งสองชนิดหากเติบโตลุกลาม ขึ้นเรื่อยๆ อาจก่อให้เกิดความพิการ หรืออาจเสียชีวิตได้เนื่องจากสมองเป็นศูนย์กลางควบคุมการทำงานของร่างกายรวมทั้งการหายใจ
อัตราการเป็นโรค
เนื้องอกในสมอง พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และช่วงอายุที่พบบ่อย ได้แก่ วัยเด็ก 5 – 9 ปี และช่วงวัยผู้ใหญ่ 50 – 55 ปี
สาเหตุของเนื้องอก
สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด อาจเกิดจากพันธุกรรม หรือมีประวัติได้รับการฉายแสง
อาการผิดปกติของโรคเนื้องอกในสมอง
อาการที่พบบ่อยๆ ได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน บางรายอาจชัก นอกจากนี้อาการอื่นๆขึ้นอยู่กับว่า เนื้องอกไปกดส่วนไหนของสมอง อาจมีแขนขาอ่อนแรง ถ้าเนื้องอกไปกดส่วนที่ควบคุม การเคลื่อนไหว หรือเนื้องอกไปกดส่วนที่ควบคุมการพูดการเขียนและการทรงตัว
แพทย์จะวินิจฉัยอย่างไร
แพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกายเพื่อให้ได้ข้อมูลเบื้องต้น อาจจะต้องทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม ด้วยคอมพิวเตอร์สมอง (CT SCAN ) หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของสมอง (MRI)
การรักษา
- ส่วนใหญ่เนื้องอกในสมองรักษาด้วยการผ่าตัด ปัจจุบันมีการพัฒนาเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เพิ่มความปลอดภัยจากการผ่าตัด แผลเล็กฟื้นตัวเร็ว เสียเลือดน้อยลง ผ่าตัดแผลเล็กถึงรอยโรคด้วยความแม่นยำ เรียกว่า Minimally invasive surgery ประกอบด้วยเครื่องมือต่างๆ ได้แก่
- เครื่องนำทาง (Navigator) กำหนดตำแหน่งแม่นยำ
- กล้อง Endoscope ใส่เข้าโพรงขนาดเล็กได้
- กล้อง Microscope กล้องขยายและนำแสงเห็นภาพชัดเจน
- Cusa(คลื่นเสียง) หรือ Laser (คลื่นความร้อน) เพื่อตัดเนื้องอก
- การฉายรังสี มักจะฉายรังสีหลังจากการผ่าตัดเนื้องอกแล้ว
- การให้ยาเคมีบำบัด หรือยาควบคุมการสร้างฮอร์โมน ขึ้นอยู่กับขนิดของเนื้องอก
การป้องกันการเกิดเนื้องอกในสมอง
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องกัน แต่สิ่งที่ควรทำคือตนเองและญาติ ต้องสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้น เช่นเรื่อง การปวดศีรษะ ตาพร่ามัว การคลื่นไส้อาเจียน การทรงตัว ถ้าพบอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการรักษาเนื่องจาก ปัจจุบันมีการรักษาที่ทันสมัยปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น